top of page
Technology Desing
วิธีการบวก ตัวอย่างการบวกเลข 2 หลัก 95 38 = ? วิธีคิดในใจ คือ แยกตัวเลขเป็น 2 กลุ่ม คือ (90 30) และ (5 8) แล้วนำมารวมกัน ได้ 133 ตัวอย่างการบวกเลข 3 หลัก 763 854=? วิธีคิดในใจ คือ 800 700 =1,500 แล้วบวก 60 50 ได้ 1,610 แล้วนำไปบวกกับ 3 4 ที่เหลือ ได้คำตอบของโจทย์นี้เท่ากับ 1,617 วิธีการลบ ส่วนวิธีลบ น่าจะเป็นวิธีที่คนทั่วไปไม่รู้ เพราะปกติเราจะตัวเลขตั้งแล้วลบ แต่วิธีของ ดร.เบนจามินคือ เปลี่ยนจากตัวเลขลบเป็นบวก (complement) เช่น -23 มี complement เป็น 77 ตัวอย่าง คือ 138-68 ให้เปลี่ยนเป็น (138 32) – 100 จะคิดได้ง่ายกว่า หรืออีก ตัวอย่าง 857-192 = ? มีวิธีคิดง่ายๆ คือ เปลี่ยนเป็น 857-200 = 657 แล้วบวกด้วย 8 ที่ลบเกินไป จะได้คำตอบ 665 วิธีการคูณ สำหรับวิธีคูณก็คิดจากซ้ายไปขวาเช่นกัน อาทิ 13x14=? ให้แยกเป็น (13x10) (13x4) = 130 52 = 182 หรือ 68x49 ให้คิดเป็น 68x50 = 3,400 แล้วลบ 68 ที่คูณเกินมา หรือ 84x21 = ? ให้คิดเป็น 84x20=1,680 แล้วบวกด้วย 84 ที่ยังคูณไม่ครบ วิธีคิดเลขยกกำลัง มาถึงเลขยกกำลัง ยกตัวอย่างการยกกำลัง 2 โดยระบุว่า ให้ปัดตัวเลขเพื่อให้เหลือตัวคูณเพียง 1 หลัก อาทิ 232 ซึ่งแยกได้เป็น 23x23 ให้ปัดตัวเลขขึ้น-ลงเป็น 26x20 = 520 แล้วบวกเข้ากับจำนวนยกกำลังสองของค่าที่ปัดขึ้น-ลง ซึ่งในตัวอย่างนี้คือ 32 จะได้คำตอบเป็น 529 อีกตัวอย่างคือ 782 ปัดได้เป็น (80x76) 22 = 6,084 วิธีการหาร ส่วนการหารเลขยกกำลังนั้น ไม่แตกต่างจากที่วิธีคิดเดิมเท่าไหร่ เนื่องจากปกติเราหารจากซ้ายไปขวาอยู่แล้ว มีหลายวิธีเช่น 1. ใช้ตัวหน้าคูณของทั้งสองจำนวนคูณกันแล้วเอาเลขที่เป็นตัวหลังมาบวกแล้วตั้งไว้ 2. ต่อท้ายด้วยตัวหลังคูณตัวหลัง (ต้องเป็นเลขสองหลักเท่านั้น) (หน้า x หน้า หลัง แล้วต่อท้ายด้วย หลัง x หลัง) ตัวอย่าง ที่ 1 จงหาผลคูณของ49 x 69 วิธีคิด 49 x 69 = 4 x 6 แล้วบวกด้วย 9 = 33 ต่อท้ายด้วย (9 x 9) = 81 เพราะฉะนั้นคำตอบเท่ากับ 3381 ตัวอย่าง ที่ 2 จงหาผลคูณของ32 x 72 วิธีคิด 32 x 72 = 3 x 7แล้วบวกด้วย 2 = 23
https://www.kroobannok.com/58744
bottom of page